“โลหะหนัก” สิ่งปนเปื้อนในน้ำที่ไม่ควรมองข้าม

 

ภาพประกอบ : การปล่อยมลพิษของอุตสาหกรรม (ที่มา: https://www.22september.org/การปรับตัวให้เข้ากับเม/)
การใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งขยะ รถปล่อยควันพิษ หรือแม้กระทั่งการพัฒนา และการขยายตัวของอุตสาหกรรม นั้นทำให้เกิดการปล่อยของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างมากมาย และส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากในเมืองแล้ว เมื่อพูดถึงบ้านพักอาศัยหรือชุมชน ตามชาญเมือง ชนบท ห่างจากนิคมอุสาหกรรมหรือชุมชนเมือง ที่น้ำประปาเข้าไม่ถึง ก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน เนื่องจากชาวบ้านนิยมรองน้ำฝนเพื่อใช้อุปโภค บริโภค นอกจากน้ำฝนที่หล่นลงมาจากฟ้าจะเจอสิ่งปนเปื้อนจากอากาศแล้วยังมีการปนเปื้อนจากหลังคาที่น้ำชะล้างมาอีกด้วย จากเหตุนี้จึงพบว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในเมือง หรือชนบท ก็อาจได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราจะมากล่าวถึงวันนี้คือ การปนเปื้อนของโลหะหนักในน้ำ

หากเราลองคิดดูเมื่อแหล่งน้ำมีการปนเปื้อนของโลหะหนัก สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปลาต่างๆก็กินเข้าไปแล้วเกิดสารสะสมในตัวของสัตว์น้ำนั้นๆ และจากนั้นมนุษย์ก็จับสัตว์น้ำมาบริโภคต่อ พวกสารปนเปื้อนหรือโลหะหนักนั้นก็จะตกทอดมาถึงมนุษย์ ซึ่งเมื่อได้รับในปริมาณมาก หรือสะสมมากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นนอน

 ภาพประกอบ : การปนเปื้อนโลหะหนักในธรรมชาติจากกิจกรรมของมนุษย์ (ที่มา: Garbarino et al., 1995)

โลหะหนัก (Heavy metal) คือ ธาตุที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำ 5 เท่า หรือมีความถ่วงจำเพาะตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ซึ่งคุณสมบัติของโลหะหนักนี้ สามารถละลายน้ำได้ จึงทำให้เราอาจคาดไม่ถึง และบริโภคเข้าไป ซึ่งโลหะหนักบางชนิดก็มีประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม บางชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่บางชนิดก็เป็นพิษต่อร่างกายได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น
• ปรอท (Mercury : Hg) โดยจะพบได้ตามสัตว์น้ำเนื่องจากมีการปล่อยน้ำเสียของอุตสาหกรรมทิ้งลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ปรอทมีการสะสมในสัตว์น้ำ เมื่อเราบริโภคสัตว์น้ำเข้าไปและร่างกายของเราได้รับมาในปริมาณที่มากจะส่งผลให้ ไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ ชาตามแขน-ขา กล้ามเนื้อสั่น เป็นอัมพาตและยังสามารถถ่ายทอดจากคุณแม้ตั้งครรภ์สู่ลูกได้ ซึ่งส่งผลให้เด็กเกิดอาการพิการทางสมอง นอกจากนี้โรคที่เกิดขึ้นจากพิษของสารปรอทที่เราคุ้นชินกันก็คือ โรคมินามาตะ
• ตะกั่ว (Lead : Pb) โดยจะพบได้ตามภาชนะในการผลิตอาหาร เช่นหม้อก๋วยเตี๋ยว กะทะ ที่มีการเชื่อมด้วยตะกั่ว และพวกบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้รับมาตรฐาน แม้กระทั่งแบตเตอรี่ หากเราได้รับตะกั่วในปริมาณที่มาก จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ประสาทหลอน ชัก เป็นอัมพาต หรืออาจเสียชีวิตได้ โดยพิษของตะกั่วจะทำลายกระดูก สมอง ไต และต่อมไทรอยด์ สำหรับเด็กที่ได้รับสารตะกั่ว จะมีระดับ IQ ที่ต่ำกว่าเด็กทั่วไป
• แคดเมียม (Cadmium : Cd) พบได้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่นโรงงานทำสี โรงงานผลิตพลาสติก หากได้รับสารแคดเมียมในปริมาณมากมีผลให้กระดูกเปราะ และปวดอย่างรุนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่น้อยเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง ไตทำงานผิดปกติ ความจำเสื่อม ซึ่งหากมีอาการอ่อนเพลียอาจหมดสติและเสียชีวิตได้ โดยโรคที่เกิดจากสารพิษของแคดเมียม คือโรค อิไตอิไต

จากตัวอย่างความเป็นพิษข้างต้น เห็นได้ว่าโลหะหนักมีความอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งกรณีที่ได้รับในปริมาณมาก หรือรับในปริมาณน้อยแต่สะสมเป็นเวลานาน โดยส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยทางองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) จึงได้มีการกำหนดเกณฑ์เสนอแนะคุณภาพน้ำบริโภค ในส่วนของน้ำที่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักและโลหะหนักที่เป็นพิษ ดังนี้

*หน่วยวัด: มิลลิกรัม ต่อลิตร ; อ้างอิง: WHO: Drinking-water quality guidelines

ทางบริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสีสำหรับขึ้นรูปเป็นหลังคาและผนัง ได้มีการถูกนำไปใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ทางบริษัทฯ จึงได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องน้ำชะหลังคา ซึ่งก่อให้เกิดการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าน้ำฝนที่ผ่านหลังคาและผนัง จะไม่พบโลหะหนักปนเบื้อน โดยบริษัทฯ ร่วมกับศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบ AWWA 23rd. edition 2017 ซึ่งทดสอบโดยการนำแผ่นเหล็กเคลือบโลหะซิงคาลุม (Zincalume®) และเหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (Colorbond®) ไปทำการทดสอบเพื่อดูปริมาณโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำ ด้วยเครื่องทดสอบ Inductively coupled plasma – Optical mission spectroscopy หรือ ICP – OES ผลที่ได้พบว่าน้ำชะหลังคาไม่พบโลหะหนักปนเปื้อน ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าน้ำที่ผ่านหลังคาและผนังของเราส่งไปสู่สิ่งแวดล้อมไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักอย่างแน่นอน

โรงงาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel อายุ 26 ปี ยังไม่เกิดสนิม

โรงงาน บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่รังสิต จังหวัดปทุมธานี ใช้เมทัลชีท Colorbond® Steel อายุ 35 ปี ยังไม่เกิดสนิม

เพราะใช้จริง จึงกล้ารับประกัน  เมทัลชีท บลูสโคป เพราะมีการใช้งานจริงที่โครงการต่างๆกว่า 35 ปีสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3L1RLRx นอกจากนี้เรายังมีการทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานต่างๆอีกด้วย

การทดสอบคุณภาพสินค้า บลูสโคป เพิ่มเติมได้ที่